เล่าเรื่อง เรื่อยเปื่อย

ล่าสุด

ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา

สะพานพระราม ๖ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสะพานเดียว ที่มีไว้ให้รถไฟวิ่งผ่านอย่างเดียว เมื่อหลายสิบปีก่อน รถยนต์ยังสามารถวิ่งผ่านได้ แต่เมื่อทรุดโทรมมากขึ้น ก็มีการทุบส่วนของรถยนต์ทิ้ง เหลือไว้แต่ส่วนที่รถไฟวิ่งอย่างเดียว

วันนี้เสร็จธุระที่บางโพแต่หัววัน ก็เลยตั้งใจจะเดินข้ามสะพานนี้ดูสักรอบ หลังจากขับรถผ่านเห็นคนไปเดิน-วิ่งออกกำลังหลายครั้ง

ราวสะ



รูปตัวเอง

เนื่องจากไม่ค่อยกล้าขอให้ใครถ่ายรูปให้ นานๆ ถึงจะมีรูปถ่ายของตัวเองสักรูปนึง
รูปนี้ได้ผบ.ทบ.ถ่ายให้ตอนไปตะลอนกินกาแฟของก๊วนบ่ายวันอาทิตย์
ดูอวบๆ อ้วนๆ นิดๆ เนอะ



ฝัน…

หลายคืนก่อนผมฝัน ความฝันในคืนนั้นมันหลากหลายมาก ทั้งสนุกสนาน ตื่นเต้น ผจญภัย เศร้านิดๆ ไม่ถึงกับเคล้าน้ำตา…

รู้กันมานานแล้วว่า น้อยครั้งนักที่คนเราจะจำความฝันได้ชัดเจนทั้งหมด ส่วนใหญ่จะถูกลืมไปเมื่อตื่นเต็มตา แต่คราวนี้ผมจำได้เพราะผมลุกขึ้นมาทบทวนความฝันทันทีที่สะดุ้งตื่น แต่สุดท้ายก็เหลือๆ หลงๆ เอาไว้แค่ไม่ถึง ๒๐% ของทั้งหมด

ผมมองว่าความฝันเป็นเรื่องสนุกดี ไม่ว่าจะฝันดีหรือฝันร้ายขนาดไหนก็ตาม พอตื่นมาหลังจากฝันร้าย เราจะรู้สึกโล่งอก ผ่อนคลาย แต่อาจจะมีอาการหวาดระแวงตามมานิดหน่อย แต่เดี๋ยวเดียวก็หาย ถึงอย่างนั้นมันก็ยังรู้สึกสนุก, ตื่นเต้นดีอยู่

อนาคต มนุษย์เราจะมีสักวันที่สร้างเครื่องบันทึกฝันได้ เหมือนอัดวิดีโอเลย ตื่นแล้วก็เอามาเปิดดูกันอีกรอบ น่าจะสนุกสนานดี เว้นแต่ฝันเรื่องนอกใจคนที่บ้านหรือฝันลามกเท่านั้นแหละ ส่วนพวกที่ชอบตีตัวเลขยิ่งสนุกเข้าไปใฟญ่ เพราะสามารถเรียกพวกเดียวกันมาล้อมวงช่วยกันตีเลขได้หลากหลายความเห็นเลยทีเดียว



McDonalds ราชดำเนิน

ตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะๆ มานั่งเล่นที่นี่นานแล้ว ยังไม่ค่อยลงตัวสักทีจนวันนี้ หลังจากที่ไปจัดการงานส่ง podium ที่ Central World เสร็จก็เลยแวะมานั่งเล่นแก้เบื่ออยู่บ้านคนเดียว

พบว่าการนั่งคิดโน่น คิดนี่ในที่ที่มีคนพลุกพล่านกลับทำให้หัวสมองมันแล่นกว่าที่เงียบๆ เสียอีก

ตอนนี้มีบัตร Rabbit version Mc ออกมาด้วย สงสัยต้องซื้อไว้สักใบเผื่อมาอีกบ่อยๆ เพราะลดราคาเครื่องดื่ม McCafe ตั้ง ๒๕% เลยทีเดียว

ตี ๑ แล้ว ยังเพลินอยู่เลยแฮะ

ตะลุยน้ำท่วม 1

เพราะงานพืชสวนโลกเลื่อน ก็เลยทำให้ได้กลับมาดูบ้านในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ท่วม

ในตอนแรก ก็ไม่เคยได้ใส่ใจว่าน้ำจะเข้าบ้านหรือไม่ ด้วยเพราะมั่นใจตามที่โครงการฯ บอกเอาไว้
แต่หลังจากที่ทิ้งบ้านไปเชียงใหม่หลายๆ วัน ความเชื่อมั่นก็ค่อยๆ ถูกกัดกร่อนลงด้วยเสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างๆ จนทำให้ทนไม่ไหว ต้องตัดสินใจเดินทางกลับทันทีที่รู้ว่างานเลื่อน

เราบินกลับในเที่ยวบิน 5 โมงเย็น ซึ่งมานึกได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์ เพราะกว่าเครื่องจะลง กว่าจะมาถึงทางเข้าบ้านก็เป็นเวลา 3 ทุ่มซึ่งมันเป็นเวลาที่ดึกเกินไปซะแล้ว
โดยปกติ การกลับบ้าน 3 ทุ่มถือเป็นเรื่องปกติ เราลงรถแล้วยังสามารถหาอะไรกินก่อนเข้าบ้านได้ แต่สถานการณ์ที่ไม่ปกติอย่างวันนี้ เราต้องรอรถเข้าซอยถึง 4 ทุ่มเพราะน้ำท่วมทางเกือบหมดแล้ว แล้วยังต้องลุยน้ำสูงกว่าหัวเข่าเข้าบ้าน ผ่านดงหญ้ารกทึบ และยังไม่รู้ว่ามีอะไรรอเราอยู่ตรงระเบียงบ้านแห้งๆ ที่อาจจะมีตัวอะไรหนีน้ำมาก็ได้
ระหว่างทางเราก็พยายามมองหาไม้หรืออะไรที่พอจะเอามาเป็นอาวุธป้องกันตัวยไปตลอดทาง แต่ก็หายไม่เจอ สุดท้ายเราก็เข้าไปในบ้านของเราได้อย่างปลอดภัย ไม่มีอะไรมาให้เราต้องอกสั่นขวัญหาย
และเป็นเรื่องดี ที่เรากลับมาทันก่อนที่น้ำจะเข้าบ้าน

คืนนั้นเรานอนหลับสบาย หายเครียดไปเปลาะหนึ่ง
ก่อนที่จะตื่นเช้ามาพบกับความเครียดอื่นที่ก่อตัวรออยู่อย่างสงบด้านนอกนั่น

20111031-050944.jpg

ระยอง again

กลับมาเมืองระยองเป็นเวลาสั้นๆ อีกครั้ง ด้วยเหตุหนีน้ำท่วมบ้านมา คราวนี้เป็นเมืองแกลง เมืองที่มียามตีระฆังบอกเวลาเก๊ง เก๊ง

อาม่าเสีย

หลังจากร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง

อาม่าก็ได้จากพวกเราไปอย่างสงบ เมื่อเวลา ๔ ทุ่ม ๒๐ วันอาทิตย์ที่ ๒๐ กุมภา ที่ผ่านมา

ทั้งๆ ที่เราคิดว่านั่นคือการนอนหลับลึกอย่างที่เคยเป็น

อาม่าหายใจแรงอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมง หลังจากเป็นไข้

แม่รู้สึกเอะใจลองไปเรียกดู ก็ไม่มีอาการตอบสนอง

น้องๆ เริ่มใจไม่ค่อยดี เข้าไปเรียก ไปเขย่าตัว

เราก็ยังคิดในแง่ดีกว่า หลับลึกเหมือนเคยๆ นั่นแหละ

อีกสักพักจะลืมตาขึ้นมา แล้วก็บอกว่าจะกินโอวัลติน

แต่คราวนี้ไม่ หลังจากหายใจ ๒ เฮือกสุดท้าย อาม่าก็ไม่หายใจอีกเลย

 

ยังไม่ได้คุยอะไรกันเท่าไหร่เลย

อาม่าเอาแต่นอนหลับ ได้คุยบ้าง ก็ตอนตื่นขึ้นมา ก็ถามเราแต่ว่า

“กินข้าวหรือยัง ดึกแล้วไม่นอนอีก”

 

อาม่าไม่อยู่ ไม่มีใครถามแล้ว

 

รูปนี้ เพิ่งถ่ายเมื่อเดือนที่แล้วเอง ทำไมเร็วอย่างนี้

กลับมาแว้วววว

ห่างหายไปก็นาน
มัวหลงระเริงกับ Facebook
แต่ก็ดูจะเป็นสาธารณะมากเกินไป
หลายๆ อย่างก็ไม่สะดวก
กลับมาจัดระเบียบที่นี่ใหม่ดีกว่า
จะอยู่ได้กี่วันหว่าเนี่ย

My name is Chanon

ชานนท์ เด็กนอก ลูกของลูกของป้าของผม???
ระเห็จมาจาก USA เพราะว่าป้าผมอยากพามาอวดญาติๆ ที่สยามเมืองยิ้ม
มา 2 ครั้ง ครั้งละ 3 เดือน กลับไปไม่ถึงเดือน กลับมาใหม่อีกแล้ว
ชานนท์สร้างความปั่นป่วนในบ้านอย่างมากมาย อาทิเช่น
– ปลุกผมทุก 9 โมงเช้า
– เดินขึ้นบันไดเองทุกครั้งที่คนในบ้านเผลอ
– เวลาโมโหก็เอาหัวโขกพื้น หรือไม่ก็วิ่งชนผนัง
– เอาตุ๊กตา ultraman ของผมไปหักขาเล่น ต่อใหม่ ก็หักออกอีก
– ชอบให้พาไปเดิน lotus ข้างบ้าน เสียเงินซื้อไอติมให้มันอีก ซื้อมาแล้วก็ไม่กิน
– เวลาทำงานก็ชอบมานั่งตัก
– นั่งตักเสร็จ ก็เห็น mouse เป็นรถ เห็น touchpad เป็นที่รองเขียน เห็น keyboard เป็นกลอง
– 6 โมงเย็นก็เริ่มโวยวาย
– จับลงเปล ก็กระโดดกระแทกจนเปลหัก ฮ่วย!!!
และแล้ว…ชานนท์ก็กลับไปแล้ว…เมื่อวาน
ความสงบสุขที่บ้านมาเยือน

สงบจัง

เหงาว๊อยยยยย ชานนท์ ฮือๆๆๆๆ